เผลอพกน้ำหอมกลิ่นโปรดขวดใหญ่ หรือสเปรย์สำหรับเสริมความงามมาด้วย ห้ามเกิน 0. 5 กก. /ลิตร ต่อชิ้น และน้ำหนักรวมทุกชิ้นไม่เกิน 2. 0 กก. /ลิตร หรือถ้ากลัวเสียดายน้ำหอมที่ซื้อมาแพง สนามบินเริ่มมีบริการ "เครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติ" จากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาติดตั้งนำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ 5. อุปกรณ์กีฬาสุดโปรด เช่น ชุดถุงกอล์ฟ จักรยานเสือภูเขาหรือเสือหมอบ สำหรับไปแข่งขันหรือไปแข่งไตรกีฬา ทางแต่ละสายการบินก็มีบริการขนส่งด้วยเช่นกัน สาวกสายสปอร์ตเบาใจได้เลย ที่สำคัญควรแพ็กให้มิดชิดและกันกระแทกได้ในระดับนึง 6. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด โดยเฉพาะ Power Bank ที่เกิน 30, 000-32, 000 mAh ห้ามขึ้นเครื่องและโหลดลงสัมภาระ แต่เราสามารถพกตามจำนวนที่ไม่เกินจากนี้ได้ รวมถึงแล็ปท็อป อุปกรณ์การถ่ายภาพ เฉพาะตอนขึ้นเครื่องเท่านั้น ส่วนขาตั้งกล้องสามารถโหลดลงใต้ท้องเครื่องได้ค่ะ 7. รถเข็นเด็กเล็ก หากรถเข็นเด็กสามารถพับเก็บได้ มีขนาดไม่เกินสัมภาระพกพา (56 ซม. x 23 ซม. x 36 ซม. ) และต้องสามารถเก็บไว้อย่างปลอดภัยในที่มิดชิดก็สามารถเอาขึ้นเครื่องได้เช่นกัน 8. หญิงตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากๆ สำหรับว่าที่คุณแม่คนใหม่ เพราะการเดินทางไกลแต่ละทริปค่อนข้างเสี่ยงต่อเด็กในครรภ์ ทั้งสภาพอากาศ และขณะอยู่บนเครื่อง ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นสตรีมีครรภ์ หากมีความจำเป็นในการเดินทาง ควรแสดงใบรับรองแพทย์ยืนยัน ในกรณีที่อายุครรภ์อยู่ในระหว่าง 28-37 สัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละสายการบิน หากอายุครรภ์เกินกว่านั้น ทางสายการบินจะปฏิเสธการให้บริการ สำหรับสตรีที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 28 สัปดาห์ สามารถขึ้นเครื่องได้ตามปกติ (ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินด้วยเช่นกัน) ที่มา – Lisa Guru
ช่วงนี้โปรตั๋วเครื่องบินกระหน่ำเซลส์มาก หลายคนมือลั่นพลั้งกดโปรไปแบบไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว พอฝ่าด่านโปรตั๋วถูกแล้ว ก็เตรียมแพ็กกระเป๋า แต่เอ๊ะ? สิ่งของต้องห้ามที่ไม่ให้ขึ้นเครื่องและโหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องมีอะไรบ้างล่ะ นี่อาจเป็นงานใหญ่ระดับชาติ ยิ่งกว่ากดจองตั๋วอีกนะพวกเธอออออ 1. บรรจุของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไร ของเหลวทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มีทั้งยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ โลชั่น ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และควรแพ็กในถุงซิปล็อก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจได้ชัดเจนค่ะ 2. แล้วกรรไกรตัดเล็บ เข็มด้ายเย็บผ้า สำหรับใช้ในทริปล่ะ หากมีความจำเป็นต้องใช้ระหว่างไปทริป ควรแพ็กใส่กระเป๋าเล็กแยกให้ชัดเจน ใส่ลงในกระเป๋าสัมภาระอีกที เพราะของมีคมไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ค่ะ และสำหรับนักเดินทางแบบแอดเวนเจอร์ ควรเช็กดูว่าพกของมีคมติดตัวไปหรือไม่ เพราะอาจเผลอคล้องมีด Multitools ติดกระเป๋าเป้ไปได้ 3. ยาประจำตัวให้ติดกายตลอด สำหรับยาชนิดเม็ดแคปซูลสามารถพกขึ้นเครื่องได้ค่ะ หากเป็นยาน้ำหรือยาชนิดพ่นสเปรย์ อาจมีกรณียกเว้นเป็นพิเศษ ในเรื่องโรคประจำตัวที่ต้องพกยาชนิดนี้ตลอด และควรพกใบรับรองแพทย์ไว้ตอนไปทริปต่างประเทศค่ะ เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเวลาที่เรามีความจำเป็นต้องซื้อยาเพิ่ม เภสัชกรจะเรียกดูซะเป็นส่วนใหญ่ กันไว้ก่อนดีกว่า 4.
สิ่งที่ไม่ควรนำติดตัว ได้แก่ เครื่องประดับราคาแพง หม้อหุงข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้า (ระบบไฟที่นี่ใช้ 110 โวลท์ ส่วนที่บ้านเราใช้ 220 โวลท์) 5.
ก่อนจัดเตรียมกระเป๋าเดินทาง มีกฎระเบียบที่ต้องรู้และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. กระเป๋าเดินทางและสัมภาระ ควรศึกษาหรือสอบถามเจ้าหน้าที่ของสายการบิน ตัวแทนจำหน่าย หรือเวปไซต์ของสายการบิน ว่าอนุญาตให้นำกระเป๋าเดินทางมากี่ใบ แต่ละใบมีบรรจุแล้วหนักได้ไม่เกินเท่าใด ถ้าน้ำหนักเกิน ต้องเสียค่าปรับในอัตราใด 2. สิ่งของใดต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน สิ่งของใดที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ สิ่งของใดที่นำขึ้นเครื่องบินได้แต่ห้ามนำถือขึ้นเครื่องบิน (ต้องไว้ในกระเป๋าที่ถ่ายเก็บไว้ใต้ท้องเครื่องบิน) ขอให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามนำเข้าสหรัฐฯ จาก 3. สิ่งที่ควรนำมาจากเมืองไทย ได้แก่ พจนานุกรมอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษ หนังสือตำราเฉพาะทางที่หายาก สติกเกอร์แป้นพิมพ์อังกฤษ/ไทย (สำหรับผู้จะมาหาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สหรัฐฯ) รูปถ่ายครอบครัวหรือญาติสนิท เพลงที่ชอบ เพลงไทยที่นิยมในเทศกาลประจำปี เช่น เพลงปีใหม่ เพลงสงกรานต์ เพลงลอยกระทง เป็นต้น ของชำรวยหรือของฝากประจำชาติ กล้องถ่ายรูป ยารักษาโรคประจำตัว เสื้อผ้าที่เพียงพอใส่ได้ระยะหนึ่ง สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ อาทิ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฯลฯ 4.