ดูตามราคา
ไม่ควรตั้งหิ้งพระตรงบันได หรือใต้บันได 3. ไม่ควรตั้งหิ้งพระอยู่ใต้คาน 4. ไม่ควรตั้งห้องพระหรือหิ้งพระอยู่เหนือห้องน้ำ 5. ห้ามแขวนหิ้งพระกับผนังห้องน้ำ การตั้งองค์พระตามหลักฮวงจุ้ย เมื่อสามารถกำหนดตำแหน่งของห้องพระที่เหมาะสมได้แล้ว การเลือกตำแหน่งตั้งพระพุทธรูปตามหลักฮวงจุ้ย ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยทิศที่เหมาะสมในการตั้งพระพุทธรูป ได้แก่ ทิศเหนือ และทิศตะวันออก ซึ่งจะช่วยเสริมดวงชะตา และนำโชคลาภ มาสู่ผู้อยู่อาศัย โดยสามารถพิจารณาได้จากหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. ตั้งพระหันหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ: ทิศนี้เป็นทิศเศรษฐี หากประกอบการงาน ทำมา ค้าขาย ใด ๆ ก็จะเจริญร่ำรวย ยิ่ง ๆ ขึ้น 2. ตั้งพระหันหน้าไปยังทิศตะวันออก: ทิศนี้เป็นทิศราชา จะประกอบการงานใด ๆ ก็จะเจริญ ใหญ่โต สมความตั้งใจทุกประการ 3. ตั้งพระหันหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้: ทิศนี้เป็นทิศปฐม นับว่าเป็นทิศที่ไม่เหมาะสมกับการตั้งพระ เนื่องจากทำอะไรจะไม่ค่อยเจริญ ลาภผลตกต่ำ และแค่พอมีพอใช้ 4. ตั้งพระหันหน้าไปยังทิศใต้: ทิศนี้เป็นทิศจัณฑาล โดยทำงานอะไรก็จะติดขัด ยากลำบาก หากมีการลงทุน ก็มักได้ผลประโยชน์ไม่ค่อยคุ้มค่า 5. ตั้งพระให้หันไปสู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้: ทิศนี้เป็นทิศวิปะฏิสาร งานการที่ทำจะมีแต่ความเดือดร้อนยุ่งยาก ซ้ำยังมีผลกระทบมาสู่ครอบครัว รวมทั้งเพื่อนบ้าน 6.
เศรษฐีเรือนใน ไม้พุ่มชื่อมงคลขนาดเล็ก นิยมปลูกในกระถาง แขวนประดับตามพื้นที่ร่มเงาในบ้าน หรือวางประดับบนพื้นห้อง และชั้นวางของได้ 2. เฟินดาบออสเตรเลีย ไม้กอขนาดใหญ่ แต่สามารถปลูกเพื่อฟอร์มทรงพุ่มให้มีขนาดเล็กได้ ช่วยฟอกอากาศจากสารตกค้างต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการวางในห้องแอร์ 3. สาวน้อยประแป้ง ไม้อวบน้ำ ใบหนาฉ่ำน้ำ ไม่จำเป็นต้องรดน้ำดูแลบ่อย สามารถเติบโตในพื้นที่มีแสงน้อย รดน้ำไม่บ่อย ชอบความเย็น ได้รับความนิยมในการวางประดับห้องทำงานที่ติดแอร์ 4. พลูด่าง ไม้เถาเลื้อยสีสวย เหมาะสำหรับวางประดับห้องในส่วนพื้นที่ใกล้กระจก ชอบแสงแดดปานกลาง อีกทั้งยังดูดซับสารพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี 5. ลิ้นมังกร ไม้ใบรูปเกลียว ปลูกในกระถางเล็ก ๆ เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด เหมาะวางไว้ในห้องนอน เพราะคายออกซิเจนตอนกลางคืน ทำให้อากาศสดชื่น 6. กวักมรกต ไม้มงคลยอดนิยม เป็นกลุ่มไม้ใบสีเขียว ที่นิยมนำมาประดับบ้าน อยู่ได้ในในพื้นที่มีแสงแดดจัด หรือมีแสงรำไร ดูแลได้ง่ายมาก 7. วาสนา ไม้ประดับที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะไม้พุ่มนอกบ้าน แต่สำหรับพื้นที่ในบ้าน วาสนาเป็นไม้กระถางที่ดูแลง่าย ฟอร์มกอน่ารัก เหมาะสำหรับวางบนโต๊ะทำงานหรือชั้นวางของ ให้ความรู้สึกสบายตา 8.
วิธีแยกโซนเปียก-โซนแห้งในห้องน้ำ หลากสไตล์ หลายไอเดีย เพื่อความสวยงาม ปลอดภัย ไม่ลื่น และน่าใช้งาน พร้อมแบบกั้นห้องน้ำสวย ๆ แจ่ม ๆ เอาเก็บไว้ใช้เป็นไอเดีย ห้องน้ำ เป็นอีกหนึ่งจุดอันตรายใน บ้าน หากไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะเด็กและผู้อายุ เพราะลื่นล้มได้ง่ายหากไม่ทำความสะอาดให้ดี วันนี้กระปุกดอทคอมขอรวมวิธีกั้นห้องน้ำมาฝาก ไว้สำหรับแยกโซนเปียกและโซนแห้งในห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของทุกคนในครอบครัว 1. ผ้าม่าน วิธีกั้นโซนแห้ง-เปียกห้องน้ำที่ประหยัดและไม่ต้องดูแลมาก แถมยังหาซื้ออุปกรณ์ง่าย มีให้เลือกหลายแบบ เพียงแค่นำราวและผ้าม่านมาติดบริเวณที่อาบน้ำเท่านั้นเอง โดยแนะนำให้ใช้ผ้าม่านแบบกันน้ำ เช่น PEVA หรือ EVA เพราะทำความสะอาดง่าย แข็งแรง ทนทาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ไม่มีกลิ่น แถมเป็นวัสดุปลอดสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 2. ก่อขอบปูนแบ่งโซน อีกหนึ่งไอเดียกั้นโซนห้องน้ำที่ทั้งถูก ง่าย ดี และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากวิธีนี้ช่วยให้น้ำไม่ไหลไปโดนส่วนอื่นนอกจากบริเวณที่อาบน้ำอย่างแน่นอน โดยการก่อปูนกั้นแนวบนพื้นให้สูงขึ้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร ก็ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลทั่วพื้นห้องน้ำได้แล้ว 3.
รุง อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ ผลงานการออกแบบและก่อสร้างโดย กิจเจริญไพบูลย์ ก่อสร้าง สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจที่มาด้านล่างนะคะ ที่มา: กิจเจริญไพบูลย์ ก่อสร้าง โทรศัพท์: 096 369 5041 เรียบเรียงโดย: เมนู อร่อยเหาะ
วันนี้เรามีบ้านโมเดิร์นโทนสีสว่างสะอาดตา ที่มีหลังคาเป็นดาดฟ้าไว้ชมวิวได้ มาฝากกัน หลังคาเป็นดาดฟ้าปูนโล่งๆ ที่สามารถดัดแปลงเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ได้หลากหลาย เช่น พื้นที่พักผ่อนนั่งเล่น จัดสวน สามารถเดินได้รอบ. ภายในบ้านเป็นห้องโถงสูงโปร่งถึงเพดาน มีบันไดขึ้นชั้นลอยเป็นพื้นที่ใช้สอยห้องต่างๆ. ทางเดินไปห้องนอนสองห้อง ซ้าย-ขวา.. ห้องครัวมีเคาร์เตอร์บิ้วท์อินทรงตัวแอล. ภายในห้องนอนโทนสีขาวสลับสีน้ำเงิน พื้นปูกระเบื้องสีขาวลายหินอ่อน.. ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทา แบบแปลนภายในบ้าน ที่มา: Jakkapong Sesuvan