ในปัจจุบันนี้มี 3 แอพที่กำลังทำตลาดในเมืองไทยอย่างเมามันส์คือ EasyTaxi, GrabTaxi และ Uber ซึ่งผมได้ลองทำตารางเปรียบเทียบค่าบริการและความสามารถของแต่ละอันมาให้ดูกันนะครับ ถ้าข้อมูลส่วนไหนผิดหรืออยากให้เพิ่มตรงไหน บอกได้ครับ ศูนย์บริการแท็กซี่ EasyTaxi GrabTaxi UberX Uber Black ค่าบริการเรียกรถ 20 20 25 – – ค่าโดยสารเริ่มต้น 0-1 กม. 35 35 35 25 45 ประเภทรถ แท็กซี่ทั่วไป แท็กซี่ทั่วไป แท็กซี่ทั่วไป รถทั่วไปป้ายดำ รถลิมูซีนป้ายเขียว รถติด-จอดรอ (กำลังจะปรับขึ้น) 1. 5 บาท/นาที 1. 5 บาท/นาที – – ค่าใช้จ่ายต่อระยะทาง 5 บาท/กม. *เพิ่มขึ้น 50สต. /ระยะทาง 10 กม. 5 บาท/กม. 4. 9. 2 บาท/กม. ค่าใช้จ่ายต่อเวลา – – – 1 บาท/นาที 2. 5 บาท/นาที ค่าโดยสารขั้นต่ำ – – – 45 บาท 75 บาท การชำระเงิน เงินสด เงินสด/บัตรเครดิต เงินสด/บัตรเครดิต บัตรเครดิต บัตรเครดิต ค่าทางด่วน จ่ายแยก จ่ายแยก จ่ายแยก รวมในบิล รวมในบิล แชร์ค่าเดินทาง เงินสด *หารกันเอง เงินสด *หารกันเอง เงินสด *หารกันเอง แชร์ผ่านบัตร แชร์ผ่านบัตร จำนวนรถ ไม่มีข้อมูล ~800 คัน ~800 คัน น้อยมาก น้อย แจ้งค่าโดยสาร มิเตอร์บนรถ มิเตอร์บนรถ มิเตอร์บนรถ ประมาณการผ่านแอพ ประมาณการผ่านแอพ การคิดค่าโดยสาร ตั้งแต่ขึ้นรถ?
ให้จ่ายค่าบริการ Uber และ Grab ได้ ในราคาที่ถูกลง? โดยปกติแล้ว การชำระเงินของบริการทั้ง Uber และ Grab ผู้ใช้จะต้องทำการผูกบัญชีผู้ใช้เข้ากับบัตรเครดิต เพื่อใช้ในการจ่ายเงินค่าบริการ ซึ่งถือว่าสะดวกกับผู้ใช้งานไม่ต้องวุ่นวายในการเตรียมเงินไว้จ่าย ไม่ต้องทอนเงินทอนเหรียญ อีกทั้งยังช่วยเรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างเป็นระบบ ด้วยการที่ระบบชำระเงินอยู่ภายในแอพได้เลย ทั้ง Uber และ Grab ก็มักจะมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย แจกโค้ดส่วนลดค่าบริการให้กับผู้ใช้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้งานของลูกค้า แต่ว่าจะไปหาโค้ดพวกนี้มาจากไหนได้บ้างล่ะ?
ในที่นี้ขอแยกอธิบายส่วนของ Grab Taxi ก่อน เพราะบริการ Grab Taxi จะเป็นการเรียกรถที่จดทะเบียนบริการสาธารณะอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาในการใช้งานอย่างไร แต่กับส่วนของ Grabcar และ Uber จะเป็นการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้บริการสาธารณะ โดยถ้าดูตามระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการขอจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ. ศ. 2558 แล้ว ในข้อ 5 วงเล็บ 1 จะมีการระบุว่า รถยนต์ที่จดทะเบียน ผู้ขอจดทะเบียนต้องมีความจำเป็นใช้รถเพื่อการส่วนตัวเท่านั้น และมีระบุในข้อ 14 ว่า ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลตามข้อ 4 (1) และ (2) ไปใช้ทำการขนส่งเพื่อสินจ้าง หรือนำรถยนต์ส่วนบุคคลตามข้อ 4 (3) ไปใช้เพื่อการค้าหรือธุรกิจของตนเอง หรือใช้ทำการขนส่งหรือให้เช่าเพื่อสินจ้าง ให้นายทะเบียนเพิกถอนรถคันดังกล่าว ( ดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคล) โดยมาตรการในปัจจุบันของกรมการขนส่งทางบก เมื่อพบผู้กระทำผิดอย่างผู้ขับขี่ Uber หรือ Grabcar จะดำเนินการบันทึกปากคำและเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ. 2522 ประกอบด้วย 1. เปรียบเทียบปรับในข้อหาใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่ได้จดทะเบียนไว้ ตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 60 เปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด เป็นจำนวนเงิน 2, 000 บาท 2.
มีพาร์ทเนอร์ธุรกิจเป็นเว็บแนะนำร้านอาหาร วงในดอทคอม โดย Line Manใช้ฐานร้านอาหารที่มีอยู่ของวงในดอทคอมต่อยอดธุรกิจบริการฝากซื้ออาหาร และมีการการันตีร้านอาหารน่าสนใจที่วงในคอทคอมแนะนำ ดึงดูดให้ลูกค้าLine Man ลองสั่งซื้ออาหารเพิ่มเติมจากเดิมที่ตั้งใจไว้ 2. ร่วมกับวงในคอทคอมให้บริการรับซื้ออาหารจากผู้ใช้บริการริวิวร้านอาหารผ่านแอปฯ วงใน สามารถเรียกใช้บริการซื้ออาหารจาก Line Manได้ทันที ลดความยุ่งยากไม่ต้องเปลี่ยนแอปฯ เป็น Line Man และค้นหาร้านอาหารอีกครั้ง เพราะระหว่างทางจะทำให้เกิดเปลี่ยนใจได้ 3. จัดทำแคมเปญเซ็ตอาหารราคาโปรโมชั่น ส่วนลดร้านค้า และอื่นๆ ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้งานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 4. ร่วมกับ Lalamove บริการส่งพัสดุด่วน ใช้ฐานมอเตอร์ไซค์ร่วมกัน ทำให้มีมอเตอร์ไซค์ที่มากพอให้บริการ โดยคิดค่าบริการเป็นระยะทาง เริ่มต้นที่ 55 บาท ในระยะ 1 กิโลเมตรแรก ไม่มีจำกัดระยะทางของร้านอาหารที่ฝาก 5.
ย. 57 นี้เท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติม แล้วเพื่อนๆที่เคยลองใช้แอพใดแอพหนี่งเหล่านี้มาแล้ว มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยครับ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง 🙂 ตารางค่าโดยสารแท็กซี่ปัจจุบัน 4 กิโลเมตรที่ ค่าโดยสาร 0-1 35 บาท 2-12 5 บาท/กิโลเมตร 12-20 5. 50 บาท/กิโลเมตร 20-40 6 บาท/กิโลเมตร 40-60 6. 50 บาท/กิโลเมตร 60-80 7. 50 บาท/กิโลเมตร 80 ขึ้นไป 8. 50 บาท/กิโลเมตร ในกรณีที่รถจอดหรือเคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มิเตอร์เวลาจะเดิน อัตราค่าโดยสาร 1. 50 บาท/นาที โดยเตรียมปรับขึ้นเป็น 2 บาท/นาทีในเดือนธันวาคมนี้ และระยะทางที่จะเพิ่มขึ้น 50 สต. จะลงเหลือ 10 กม. ไม่ใช่ 12 เช่นเคย เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแท็กซี่ในประเทศไทย ข้อมูลจากปี 2013 – จำนวนแท็กซี่ในประเทศไทยมีอยู่ราว 120, 000 คัน โดยคิดเป็นแท็กซี่ของสหกรณ์กว่า 80, 000 คัน ซึ่งมีสหกรณ์แท็กซี่ราว 40 แห่ง 7 เฉพาะแท็กซี่ในกรุงเทพ มีอยู่ราว 108, 500 คัน 8 แม้ว่าจะมีรถแท็กซี่เยอะขนาดนี้ แต่ว่าจำนวนก็มีไม่พอจำนวนคนขับ 7 และแม้ว่าจะมีรถแท็กซี่เยอะขนาดนี้ ก็ยังมีปัญหาร้องเรียนว่ารถไม่พอ ไม่รับผู้โดยสารอยู่เสมอ 8 สถิติปัญหาการร้องเรียนแท็กซี่ไปยังกรมขนส่งฯ 8 ลำดับ ข้อหาความผิด ต.